แพ็คเกจทัวร์สตูล ทะเลสตูลแบบ3วัน2คืน
ปากบารา เกาะหลีเป๊ะ หินงาม อาดังราวี เกาะไข่ (ประการัง7สี)
3D2N 4D3N

โปรแกรมทัวร์ เที่ยวเกาะหลีเป๊ะ ทะเลสตูล 3 วัน 2 คืน(เริ่มจากสตูล)
สถานที่เที่ยว เกาะอาดัง – ราวี – หลีเป๊ะ –หินงาม – ร่องน้ำจาบัง – เกาะไข่
วันแรก    ปากบารา – หลีเป๊ะ
10.30 น.   พร้อมกัน ณ..ท่าเทียบเรือปากบารา  เตรียมตัวเดินทางสู่เกาะหลีเป๊ะ
11.00 น.   เดินทางมุ่งหน้าสู่เกาะหลีเป๊ะ  ระหว่างทางเกาะตะรุเตา  นำท่านถ่ายภาพแห่ง ความประทับใจพร้อมแวะเยี่ยมชม อุทยานแห่งชาติตะรุเตาหลังจากนั้นเดินทางแวะเกาะไข่ นำท่านชมซุ้มประตูหินพร้อมถ่ายภาพกับสัญลักษณ์การท่องเที่ยวแห่งจังหวัดสตูลไว้เป็นที่ระลึก
12.30 น.   ถึงเกาะหลีเป๊ะ  รับประทานอาหารกลางวัน ณ..รีสอร์ทที่พัก  พักผ่อนตามอัธยาศัย
16.00 น.   นำท่านแวะเยี่ยมชมหมู่บ้านชาวเล  เดินเล่น walking Street บนเกาะหลีเป๊ะ
17.30 น.   ชมพระอาทิตย์ตกที่ขอบฟ้าอันดามันใต้  ณ..Sunset Beach
18.30 น.   บริการอาหารเย็น ณ..รีสอร์ทที่พัก
วันที่สอง   หลีเป๊ะ- หินงาม-จาบัง-เกาะดง-หินซ้อน-หาดทรายขาว-เกาะยาง-เกาะอาดัง
07.00 น.   บริการอาหารเช้า  ณ..รีสอร์ทที่พัก
08.00 น.   เดินทางสัมผัสกับความตื่นเต้น  และความประทับใจกับการดำน้ำ  ดูปะการัง อย่างจุใจ ณ..เกาะดง-หินซ้อน
10.30 น.  เดินทางต่อไปยังอ่าวไผ่-เกาะลอกวย  นำท่านเล่นน้ำหน้าชายหาดพร้อมกับหมู่ปลานานาชนิด
12.00 น.   บริการอาหารกลางวัน  ณ..ชายหาดเกาะลอกวย
13.00 น.   เดินทางต่อไปยังหาดทรายขาว-เกาะราวี  นำท่านเล่นน้ำหน้าชายหาดพร้อมกับหมู่ปลานานาชนิด หลังจาก  นั้นชมปะการังผักกาด ปะการังเขากวาง ณ..เกาะยาง และนำท่านเดินทางสู่เกาะหินงาม ชมหาดหินอันสวยงาม  หลังจากนั้นนำท่านชมปะการังเจ็ดสี และธรรมชาติใต้ท้องทะเลอันสวยงาม  ณ..ร่องน้ำจาบัง
16.30 น.   ก่อนเข้าที่พัก นำท่านสู่เกาะอาดัง ถ่ายภาพความประทับใจ และเดินทางกลับเข้าสู่ที่พัก  ณ..เกาะหลีเป๊ะ  พักผ่อนตามอัธยาศัย
18.00 น.   บริการอาหารเย็น  ณ..รีสอร์ทที่พัก
วันที่สาม  หลีเป๊ะ – ปากบารา
07.00 น.   บริการอาหารเช้า  ณ..รีสอร์ทที่พัก
08.00 น.   เตรียมตัวอำลาท้องทะเลอันดามันใต้
09.00 น.   ออกเดินทางกลับสู่ท่าเทียบเรือปากบารา
10.30  น.  ถึงท่าเทียบเรือปากบารา  โดยสวัสดิภาพ
อัตราค่าบริการ : สอบถามราคาพิเศษที่ เที่ยวสนุกทัวร์ 085 384 0228 / 075 502 938
รายการนี้รวม :
ค่าเรือไปกลับ
ค่าที่พัก 2 คืน ห้องแอร์
ค่าอาหาร 6 มื้อ
ค่าอุปกรณ์ดำน้ำ
ค่ามัคคุเทศก์
ค่าซ๊อฟดริ้ง
ค่าประกันภัยการเดินทาง
ค่าอุทยาน
ที่พักที่ใช่คือ :
วารินทร์บีชรีสอร์เกาะหลีเป๊ะ
บันดาหยารีสอร์ท
สิ่งที่ต้องนำไปด้วย :
ครีมกันแดด
แว่นตากันแดด
หมวก และผ้าขนหนู
กล้องถ่ายรูป
ถุงพลาสติก
ชุดว่ายน้ำ
ของใช้ส่วนตัว
ยารักษาโรค (เฉพาะบุคคล)
เกาะตะรุเตา นั้น เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลที่ได้รับความนิยมมากมายจากนักท่องเที่ยว ที่มีจุดเด่นที่น้ำทะเลใส่สะอาด หาดทรายขาวละเอียด ประกอบกับเรื่องราวของโจรสลัดและนักโทษทางการเมืองในสมัยอดีตทำให้ที่นี้เป็นแม่เล็กทางธรรมชาติอย่างดีที่จะนำเงินเข้าสู้จังหวัดสตูล ที่นี่มีบ้านพักของอุทยานไว้คอยบริการนักท่องเที่ยว หรือจะพักแบบเต็นก็มีบริการเช่นเดียวกัน และร้านค้า และสวัสดิกาลเรื่องของอาหารการกินจะน้อยท่านที่จะไปพักที่นี่ต้องเตรียมอาหารไว้เพียงพอ และรางกายต้องแข็งแรงเช่นกัน
อุทยานแห่งชาติตะรุเตาจังหวัดสตูล
เป็นอุทยานแห่งชาติทางทะเลแห่งแรกของประเทศไทย มีชื่อเสียงทางด้านประวัติศาสตร์ และความสวยงาม ตั้งอยู่ในทะเลอันดามันบริเวณช่องแคบมะละกา มหาสมุทรอินเดีย ในท้องที่ตำบลเกาะสาหร่าย อำเภอเมือง จังหวัดสตูล อุทยานแห่งนี้อยู่ห่างจากตัวเมืองสตูล ไปทางทิศตะวันตกประมาณ 40 กม. และห่างจากฝั่งที่ท่าเรือปากบาราประมาณ 22 กม. แนวเขตด้านใต้ของอุทยานฯ ติดกับเส้นเขตแดนใน ทะเล ระหว่างประเทศไทยและสหพันธรัฐมาเลเซีย
ประกอบไปด้วย หมู่เกาะใหญ่น้อย จำนวนถึง 51 เกาะ มีเนื้อที่ทั้งเกาะและทะเลรวมกันประมาณ 1,490 ตรกม. แบ่งเป็นพื้นที่ทางทะเล 1,260 ตรกม. พื้นที่เกาะ 230 ตรกม. จัดแบ่งออกเป็น หมู่เกาะใหญ่ 2 หมู่เกาะ คือ หมู่เกาะ ตะรุเตา และหมู่เกาะอาดัง-ราวี เกาะสำคัญขนาดใหญ่มี 7 เกาะ ได้แก่ เกาะตะรุเตา เกาะอาดัง เกาะราวี เกาะดง เกาะหลีเป๊ะ เกาะเหล็ก เกาะกลาง เกาะที่มีขนาดใหญ่ที่สุดคือ เกาะตะรุเตา ได้รับการประกาศ เป็นอุทยานแห่งชาติเมื่อวันที่ 19 เมษายน 2517 
อัตราค่าธรรมเนียมในการเข้าชมอุทยานฯ ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท ชาวต่างประเทศ 200 บาท เด็ก 100บาท

สถานที่ท่องเที่ยวเขตอุทยานแห่งชาติตะรุเตา

เกาะตะรุเตา
อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตา
       “ตะรุเตา” เป็นคำที่เพี้ยนมาจากคำว่า “ตะโละเตรา” ในภาษามลายู แปลว่า มีอ่าวมาก ตะรุเตา เป็นอุทยานแห่งชาติ ที่อยู่ในทะเลอันดามัน บริเวณช่องแคบมะละกา มหาสมุทรอินเดีย ในท้องที่อำเภอเมือง จังหวัดสตูล ด้านใต้ของเขตอุทยานแห่งชาติ ห่างจากชายแดนไทย-มาเลเซีย เพียง 4.8 กิโลเมตร อุทยานแห่งชาติตะรุเตา เป็นสถานที่ท่องเที่ยว ในความใฝ่ฝันของนักท่องเที่ยวทั่วไป เนื่องจากเป็นจุดรวมของ ความงามที่ธรรมชาติสร้างสรรค์ ทั้งบนเกาะ และในน้ำ มีป่าที่อุดมสมบูรณ์ เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่านานาชนิด ในน้ำก็งดงาม ด้วยกลุ่มปะการังหลากสี สวยสด จนเป็นที่กล่าวขวัญกันไปทั่วโลก ซึ่งประกอบด้วย เกาะน้อยใหญ่จำนวน 51 เกาะ รวมทั้งพื้นที่บนเกาะ และทะเลประมาณ 931,250 ไร่ หรือ 1,490 ตารางกิโลเมตร
นับเป็นเกาะใหญ่ที่สุด คำว่า "ตะรุเตา" นี้ เพี้ยนมาจาก คำว่า "ตะโละเตรา" ในภาษามลายูแปลว่า มีอ่าวมาก เช่น อ่าวตะโละดาบ อ่าวตะโละอุดัง อ่าวหินงาม ฯลฯ ชื่อเหล่านี้มักจะตั้งตามสภาพที่พบเห็นเป็นส่วนใหญ่ เช่น อ่าวหินงาม มีชายหินที่มีความสวยงามตลอดแนว อ่าวตะโละอุดังมีกุ้งทะเลมาก เป็นต้น บริเวณเกาะตะรุเตามีสถานที่น่าสนใจดังนี้
พุทธศักราช 2479 มีการประกาศพระราชบัญญัติกักกันผู้มีสันดานเป็นโจรผู้ร้าย กรมราชทัณฑ์จึงหาสถานที่ที่มีภูมิประเทศเหมาะสม ซึ่งในที่สุดได้เลือกเกาะตะรุเตาและจัดตั้งขึ้นเป็นทัณฑสถาน โดยเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2480 กลุ่มบุกเบิกของกรมราชทัณฑ์ ภายใต้การนำของขุนพิธานทัณฑทัย ได้ขึ้นสำรวจเกาะตะรุเตาบริเวณอ่าวตะโละอุดังและอ่าวตะโละวาว เพื่อจัดทำเป็น “ทัณฑสถาน” โดยฟันฝ่าอุปสรรคทางธรรมชาตินานัปการเป็นเวลา 11 เดือน งานบุกเบิกจึงสิ้นสุดลง หลังจากเดือนมิถุนายน 2481 เกาะตะรุเตาก็เป็นทัณฑสถานและเป็นนิคมฝึกอาชีพของนักโทษเด็ดขาด และนักโทษผู้มีสันดานเป็นผู้ร้าย ต่อมาได้มีพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตหวงห้ามที่ดินบนเกาะนี้ เพื่อประโยชน์แก่การราชทัณฑ์โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 56 หน้า 566 ลงวันที่ 29 พฤษภาคม 2482 ปลายปี พ.ศ.2482 รัฐบาลได้ส่งนักโทษการเมืองจากคดี กบฏบวรเดช (พ.ศ.2476) และกบฏนายสิบ (พ.ศ.2478) จำนวน 70 นาย มายังเกาะตะรุเตาซึ่งถูกกักบริเวณไว้ที่อ่าวตะโละอุดัง
ถ้ำ

ถ้ำที่น่าสนใจมีอยู่หลายแห่ง เช่น ถ้ำดงอยู่ที่อ่าวฤาษี ถ้ำจระเข้ซึ่งเป็นถ้ำที่มีชื่อเสียงมาก ต้องนั่งเรือไปตามลำคลองมะละกาที่อ่าวพันเต ทางอุทยานฯ จัดเรือไว้บริการพาชมถ้ำต่างๆ

จุดชมวิว

ด้านหลังที่ทำการอุทยานแห่งชาติ มีทางเดินป่าขึ้นหน้าผาโต๊ะบูที่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 370 เมตร เพื่อชมทิวทัศน์ของเกาะบริเวณชายหาดและท้องทะเลอ่าวพันเตมะละกา ใช้เวลาเดินทางขึ้นหน้าผาประมาณ 20 นาที จุดชมวิวอีกแห่งหนึ่งอยู่ห่างจากที่ทำการไปตามทางลูกรังเลียบชายฝั่งประมาณ 1.5 กม. จุดชมวิวจุดนี้เป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างอ่าวพันเตมะละกากับอ่าวจาก มีหน้าผายื่นออกไปในทะเล หินบริเวณนี้เรียงซ้อนกันเป็นชั้นๆ อย่างสวยงาม

บ่ออนุบาลเต่าทะเล

เป็นบ่อที่เพาะเลี้ยงลูกเต่าทะเลที่เจ้าหน้าที่อุทยานเก็บรวบรวมมาจากชายหาดของเกาะต่างๆ เต่าที่พบในบริเวณอุทยานมี 3 ชนิดคือ เต่าตะนุ เต่ากระ และเต่าหญ้าตาแดง

สถานที่ดำน้ำดูปะการัง

สถานที่ดำน้ำในบริเวณเกาะตะรุเตามีหลายแห่ง เช่นที่บริเวณผาปาปิญอง (อุทยานแห่งชาติตั้งชื่อให้ตามชื่อภาพยนตร์เรื่องปาปิญอง ที่มาใช้สถานที่บริเวณนี้ถ่ายทำ) เป็นแหล่งดำน้ำระดับ 15 ฟุต นอกจากนี้ก็มีที่อ่าวสนและเกาะตะเกียง เกาะตะรุเตายังมีสถานที่ที่น่าสนใจอีก เช่น "ศูนย์นิทรรศการ" ซึ่งจัดแสดงรายละเอียดของสิ่งต่างๆ เช่น ซากสัตว์โบราณที่กลายเป็นหิน มีอายุอยู่ในสมัย 400-500 ล้านปีมาแล้ว รวมทั้งปะการังและสัตว์น้ำชนิดต่างๆ

หาดทราย

เกาะตะรุเตามีชายหาดที่สวยงาม เล่นน้ำได้หลายหาด เช่น หาดทราย อ่าวพันเตมะละกา หน้าที่ทำการอุทยานฯ หาดทรายอ่าวเมาะและหาดทรายอ่าวสน ที่เป็นบริเวณให้นักท่องเที่ยวไปตั้งเต็นท์พักแรม และดำน้ำดูปะการังได้

น้ำตก

น้ำตกที่ค้นพบแล้วมีอยู่หลายแห่ง เช่น น้ำตกที่เกิดจากลำคลองลูลู มี 2 แห่ง น้ำตกที่เกิดจากคลองตะโละโป๊ะ มี 1 แห่ง ทั้ง 3 แห่งนี้อยู่ในบริเวณอ่าวสน นอกจากนี้ก็มีน้ำตกธารนักโทษที่อ่าวตะโละวาว

คลองมะละกา

อยู่ที่อ่าวพันเตมะละกา เป็นคลองที่มีขนาดใหญ่และมีความยาวมากที่สุด สามารถแล่นเรือเข้าไป เที่ยวชมได้เป็นระยะทางหลายกิโลเมตร สภาพสองข้างทางเป็นป่าโกงกางสลับกับโขดหินผา น้ำในลำคลองเป็นน้ำกร่อย ในอดีตคลองมะละกาได้ชื่อว่ามีจระเข้ที่ดุร้ายอาศัยอยู่ชุกชุมมาก สิ่งที่น่าสนใจบริเวณคลองมะละกา นอกจากสภาพภูมิประเทศที่สวยงามแล้ว บริเวณต้นน้ำมีถ้ำน้ำดั้นถึง 3 แห่ง เป็นถ้ำที่มีน้ำไหลลอดออกมาจากภายในถ้ำลงสู่ลำคลอง ถ้ำที่มีชื่อเสียงมาก ได้แก่ ถ้ำจระเข้ ซึ่งเป็นถ้ำที่ลึกลับวิจิตรสวยงามของหินงอกหินย้อยรูปร่างแปลกตา อันเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ทางอุทยานฯ ได้ทำทางเดินภายในถ้ำและยังมีผู้นำทางทำให้เกิดความสะดวกสบาย

การเดินทางสามารถเดินทางไปโดยติดต่อเรือหางยาวบริเวณหน้าที่ทำการอุทยานฯ หรือนั่งเรือไปตามลำคลองมะละกาที่อ่าวพันเต ซึ่งทางอุทยานฯ ได้จัดเรือไว้บริการพาชมถ้ำต่างๆ

สถานที่ทางประวัติศาสตร์เกี่ยวกับการราชทัณฑ์บนเกาะตะรุเตา

มี 3 แห่ง คือ บริเวณเรือนจำอ่าวตะโละอุดัง ซึ่งเป็นอ่าวใต้สุดของเกาะตะรุเตา และที่เรือนจำอ่าวตะโละวาว ซึ่งเป็นค่ายกักกันนักโทษการเมืองและนักโทษสามัญ ตั้งอยู่ทางทิศใต้และทางฝั่งตะวันออกของเกาะ นอกจากนี้ยังมีทางรถยนต์ประวัติศาสตร์ ขนาด 6 เมตร ที่นักโทษถางไว้เพื่อเชื่อมต่อระหว่างอ่าวตะโละวาวและอ่าวตะโละอุดัง ระยะทางประมาณ 12 กม.

หมู่เกาะอาดัง-ราวี อยู่ห่างจากเกาะตะรุเตาไปทางทิศตะวันตกประมาณ 40 กม. ห่างจากตัวเมืองประมาณ 80 กม. เป็นเกาะที่เป็นสวนแห่งปะการังใต้ท้องทะเล บางบริเวณอยู่ในน้ำตื้นสามารถมองเห็นได้จากผิวน้ำ หมู่เกาะอาดัง-ราวีแห่งนี้ มีเนื้อที่เกาะประมาณ 30 ตรกม. ภูมิประเทศโดยทั่วไปเป็นภูเขาสูง มีป่าปกคลุมแลดูเขียวครึ้ม ทางด้านหลังมีน้ำตกขนาดใหญ่ มีน้ำตลอดปี คำว่า "อาดัง" มาจากคำเดิมในภาษามลายูว่า "อุดัง" มีความหมายว่า "กุ้ง" เพราะบริเวณนี้เคยอุดมสมบูรณ์ไปด้วยกุ้งทะเล นอกจากนี้ก็มีเกาะเล็ก เกาะน้อยอื่นๆ อีก เช่น เกาะดง มีเนื้อที่ 8 ตรกม. เกาะหลีเป๊ะมีเนื้อที่ 4 ตรกม. มักเรียกชื่อรวมของเกาะอาดัง เกาะราวี เกาะดง เกาะหลีเป๊ะ ว่า"หมู่เกาะอาดัง-ราวี"

หาดทราย

ในหมู่เกาะอาดัง-ราวี มีหาดทรายที่สวยงามเล่นน้ำได้หลายแห่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหาดทรายบนเกาะไข่ เกาะไข่อยู่ห่างจากเกาะตะรุเตาไปทางทิศตะวันตกใช้เวลาเดินทางจากเกาะตะรุเตาประมาณ40 นาที สิ่งที่สำคัญบนเกาะไข่ ได้แก่ ซุ้มประตูหินธรรมชาติ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของอุทยานแห่งชาติตะรุเตา ทะเลรอบๆ เกาะไข่มีแนวปะการังอยู่โดยทั่วไป ที่เกาะไข่นี้เป็นเกาะที่เต่าทะเลชอบมาวางไข่ไว้เสมอ และนอกจากนี้ยังเป็นจุดที่มีปลาชุกมากแห่งหนึ่งด้วย ทางอุทยานไม่อนุญาตให้เข้าพัก หาดทรายแหลมสน หาดทรายอ่าวโละ หาดทรายอ่าวตะโละรีปา บนเกาะอาดัง หาดทรายขาวบนเกาะราวี ก็สามารถเล่นน้ำได้  (ตามรูปซ้ายมือนี้ ถ่ายจากจุดชมวิวผาชะโด บนเกาะอาดัง เกาะที่เห็นอยู่ไกลๆ คือเกาะหลีเป๊ะ ซ้ายมือของเกาะหลีเป๊ะ เราจะเห็นเกาะ 2 เกาะ คือเกาะกระ เป็นแหล่งดำน้ำดูปะการังน้ำตื้น)

น้ำตก

ในหมู่เกาะอาดัง-ราวี ที่สำคัญมีดังนี้คือ น้ำตกรัตนา ท่าอ่าวตะโละอาเอียง น้ำตกดาเระ และน้ำตกทะเลมอญ บนเกาะอาดัง น้ำตกโจนลงเล ที่เกาะราวี

หมู่เกาะอาดัง-ราวีมีสถานที่น่าสนใจดังนี้
เกาะหินงาม

อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะอาดัง เกาะนี้เป็นเกาะขนาดเล็ก หินที่พบบนชายหาดมีความกลมเกลี้ยงเป็นมัน มีลวดลายสวยงามมาก เล่ากันว่าหินทุกก้อนที่นี่มีคำสาปของเจ้าพ่อตะรุเตา หากใครเก็บออกมา จะต้องมีอันเป็นไป

เกาะหินซ้อน (อยู่บริเวณ เกาะดง)

 อยู่ทางซ้ายมือของเกาะหินงาม มีลักษณะแปลกคือ หินก้อนใหญ่ 2 ก้อนเรียงซ้อนกันอยู่

สถานที่ดำน้ำดูปะการัง

แหล่งดำน้ำในหมู่เกาะอาดัง-ราวี ที่น่าชมได้แก่ บริเวณเกาะจาบัง อยู่ทางทิศตะวันออกของเกาะหินงาม บริเวณอ่าวตะโละรีปา ด้านใต้ของเกาอาดัง บริเวณชายฝั่งด้านทิศใต้ของเกาะราวี แหล่งดำน้ำแหล่งนี้มีทัศนียภาพใต้น้ำสวยงามมาก

เกาะสิเป๊ะหรือเกาะหลีเป๊ะ

เกาะนี้อยู่ทางตอนใต้ของเกาะอาดัง มีชุมชนชาวเลอาศัยอยู่หลายครอบครัว ส่วนใหญ่มีอาชีพทำการประมง ในเดือน 6 และเดือน 12 ขึ้น 13-15 ค่ำ ตลอด 3 วัน 3 คืน ชาวบ้านที่มีเชื้อสายชาวเลจะมารวมกันที่เกาะหลีเป๊ะเพื่อจะจัดงานรื่นเริงร่วมกัน และที่สำคัญที่สุดคือ ชาวบ้านจะช่วยกันต่อเรือด้วยไม้ระกำ และประกอบพิธีลอยเรือ ด้วยเป็นความเชื่อว่าเป็นการเสี่ยงทายโชคชะตาในการประกอบอาชีพประมง
จุดเด่นของเกาะหลีเป๊ะ คือ ธรรมชาติของป่าปะการังรอบเกาะ เวิ้งอ่าวสวยงาม หาดทรายขาวละเอียด และอ่าวที่สวยงามคือ อ่าวพัทยา บนเกาะมีที่พักคอยบริการนักท่องเที่ยวทั้งบริเวณหน้าเกาะและด้านหลังเกาะ อัตราค่าที่พักประมาณ 200-300 บาท

เกาะจาบัง

ปะการังใต้น้ำที่นี่ ต้องยอมรับว่า เป็นจุดที่สวยที่สุดจุดหนึ่งที่นักดำน้ำไม่ควรพลาด ที่นี่เป็นร่องน้ำลึก ดังนั้น นักท่องเที่ยวที่นั่งเรือมาจะต้องหาทุ่นผูกเรือใต้น้ำ กองหินต่างๆ ใต้น้ำจะถูกปกคลุมไปด้วย ปะการังอ่อนสีชมพู สีม่วง สีฟ้า สีแดง ดอกไม้ทะเล  ดาวขนนก ฟองน้ำครกขนาดใหญ่ และที่เพิ่มสีสันให้สวยงามขึ้น ก็ได้แก่ ฝูงปลาน้อยใหญ่ แวกว่ายกันอยู่ ไม่ว่าเป็น ปลาการ์ตูน ปลานกแก้ว ปลานกขุนทอง น้ำที่นี่จะไหลเชี่ยว นักท่องเที่ยวที่ดำน้ำควร มีชูชีพ และเกาะเชือกที่ผูกไว้กับเรือไว้ขณะดำน้ำ

เกาะยาง (เกาะกาต๊ะ)

อยู่ถัดจากเกาะหินงาม ขึ้นมาทางเหนือ ใช้เวลาวิ่งเรือราว 10 นาที หน้าเกาะมีปะการังเขากวาง ปะการังรูปโต๊ะ ปะการังไฟ ปะการังสมอง ปะการังผักกาด มีระดับความลึกราว 4-10 ฟุต จึงเหมาะสำหรับการดำน้ำตื้น น้ำใส หาดทรายขาวสะอาด  เมื่อ 2540-2541 มีผลกระทบจากปรากฎการณ์ (เอลลิโน) อุณหภูมิของน้ำสูงขึ้น จึงทำให้ปะการังบางส่วน โดยเฉพาะปะการังเขากวาง และปะการังกิ่งตายลงเป็นจำนวนมาก

การเดินทางสู่อุทยานแห่งชาติตะรุเตา

  1. สามารถเดินทางไปยังท่าเรือปากบาราซึงห่างจาก จังหวัดสตูลประมาณ 60 กม.โดยใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 406 ถึงบ้านฉลุง แยกซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 416 (สตูล-ละงู) ต่อด้วยทางหลวงหมายเลข 4052 ซึ่งแยกจาก อ.ละงู ตรงไปสู่ท่าเรือปากบารา
  2. จากอ.หาดใหญ่ สามารถเดินทางไปยังท่าเรือปากบารา ซึ่งห่างจากท่าเรือปากบาราประมาณ 120 กม.
แพคเกจทัวร์เกาะหลีเป๊ะ พักที่ เดอะกรีนรีสอร์ท เกาะหลีเป๊ะ
รหัสทัวร์ GL1 : ทัวร์หลีเป๊ะ 1 คืน 2 วัน
เป็นโปรแกรมทัวร์หลีเป๊ะที่เน้นพักผ่อนบนเกาะหลีเป๊ะ และชมบรรยากาศของทะเลหลีเป๊ะอย่างเต็มที่ แต่หากต้องการไปดน้ำดูปะการังก็ค่อยไปตัดสินใจซื้อที่หลีเป๊ะ ไม่ต้องจ่ายเงินไปก่อน ถ้าชอบแล้วค่อยซื้อทีหลัง
โปรแกรมทัวร์เกาะหลีเป๊ะ 3 วัน 2 คืน บินตรงจากเชียงใหม่
ทัวร์นี้เริ่มเดินทางได้ 1 ต.ค. 58 - 15 พ.ค. 59 แต่ท่านสามารถจองมาได้เลยครับ เพื่อป้องกันห้องเต็ม ห้องที่หลีเป๊ะเต็มตลอดครับ โดยเฉพาะคณะใหญ่ต้องรีบจองครับ
ทัวร์เชียงใหม่ หาดใหญ่ เกาะหลีเป๊ะ 3 วัน 2 คืน
แพคเกจทัวร์เกาะหลีเป๊ะ จากเชียงใหม่ 3 วัน 2 คืน
- เชียงใหม่ หลีเป๊ะ 3 วัน 2 คืน
ทัวร์เชียงใหม่ หาดใหญ่ 3 วัน 2 คืน
คณะส่วนตัว 8 ท่าน สามารถขอาคามา และออกเดินทางได้ทุกวัน
แนะนำองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชนที่ท่านสามารถ
เดินทางโดยการเริ่มบินตรงมาจากสนามบินเชียงใหม่ ใช้โปรแกรมทัวร์นี้ได้เลยครับ
เที่ยวครบทะเลสตูล เกาะตะรุเตา เกาะไข่ เกาะหลีเป๊ะ เกาะอาดัง-ราวี เป็นติ้น
คุยทุกเรื่องเมืองสตูล
บริการนำเที่ยวโดยเที่ยวสนุกทัวร์แอนด์แทรเวล ใบอณุญาตธุรกิจนำเที่ยวเลขที่ 41-00335
สำนักงานเลขที่ 10/114 ซ.กันตัง20 ถ.จริงจิตร ต.ทับเที่ยง อ.เมือง จ.ตรัง 92000 โทร. 075 502 938 สายด่วน 085 384 0228 (คุณนัท) 081 415 5955 (คุณใหม่)